ส่วนประกอบราคาแหวน มีดังนี้
1. GOLD
ปัจจัยที่มากำหนดราคาทอง
- Gold Lock หรือ ราคาทองในตลาด ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเหมือนกันตลาดหุ้น คือมีราคาปิด – เปิด
และความผันผวน ที่เกิดขึ้น
- Percent (%) of gold loss
คือข้อตกลงระหว่างลูกค้ากับทางบริษัทเป็นสิ่งที่ลูกค้ายินยอมให้บริษัทคิดราคาทองเพิ่ม
จากน้ำหนักทองจริงในเครื่องประดับ 1 ชิ้น
- น้ำหนักทองแบ่งเป็น
ประเภทของน้ำหนัก
• Quote Weight คือ น้ำหนักของชิ้นงานแต่ละชิ้นที่มีการตกลงกับลูกค้า
• Finish Weight คือ น้ำนักของชิ้นงานหลังจากที่ผลิตได้แล้ว
• Minimum Weight คือ น้ำหนักชิ้นงานที่น้อยที่สุดที่ลูกค้ายอมรับ โดยทั่วไปแล้วจะน้อยกว่า Quote Weight 5% น้ำหนักส่วนนี้จะสำคัญมากเนื่องจากการที่บริษัทส่งชิ้นงานให้กับลูกค้าโดยที่มีน้ำหนักต่ำกว่าระดับนี้
ก็เหมือนกับว่าบริษัทเอาเปรียบลูกค้า อาจทำให้บริษัทขาดความน่าเชื่อถือ
• Maximum Weight คือ น้ำหนักที่มากที่สุดที่ลูกค้ายอมรับได้ ซึ่งโดยปกติจะไม่กำหนดกัน
• น้ำหนักทองวัดเป็น K ซึ่งก็คือ อัตราส่วนเนื้อทองที่ผสมอยู่ในทองที่ใช้ โดยที่ทอง 99.99% จะคิดเป็น 24K โดยปกติแล้วทองจะมีเนื้ออ่อน จึงต้องมีการผสมอัลลอยด์เพื่อให้ชิ้นงานแข็ง เพราะฉะนั้นทอง 14K จึงประกอบด้วยทองปริมาณ 14/24 และอัลลอยด์ 10/24
การตรวจสอบทองมี 2 วิธี คือ
• การใช้ Laser
• การหลอม (จะมีความแม่นยำมากกว่า Laser)
วิธีคำนวณราคาทอง
• ราคาทองของชิ้นงาน ($) = น้ำหนักที่อนุญาตให้ใช้ (g) * ราคาทองต่อน้ำหนัก ($/g)
• น้ำหนักที่อนุญาตให้ใ้ช้ (g) = Quote Weight * Persent (%) of gld loss
• ราคาทองต่อน้ำหนัก ($/g) = Gold market price ($/oz) / 31.1035
***หมายเหตุ 1oz = 31.1035 g
2. Diamond & Stone ปัจจัยที่ใช้กำหนดราคาคือ
• ประเภท
• คุณภาพ
• เหลี่ยม
• Size
ปัจจัยในการกำหนดราคาเพชร
1. Color
คือ สีของเพชรจะมีตั้งแต่ขาวสุด ไปจนกระทั่งเหลืองแก่ ซึ่งจะแทนด้วยอักษร A – Z ซึ่ง A จะขาวสุด
Z คือเหลืองแก่
2. Clarity
คือ ความสะอาดของเพชร หรือก็คือ ความวาวของเพชรซึ่งจะดูำตำหนิภายในเพชร
จะแบ่งเป็น VVSI (Very Slighty Shlightly Inclusion). SI (Slightly Inclusion).
I1 (Inclusion 1), I2 (Incluion 2)
3. Cut
คือการเจีียเหลี่ยมเพชร แบ่งคร่าว ๆ ได้เป็น Single Cut (SC), Full Cut (FC) โดยที่เพชรที่มีขนาดใหญ่
คือมากกว่า 0.01 ct จะ้ต้องทำ FC เท่านั้น แต่ถ้าว่าเป็นเพชรเล็กขนาด 0.003 – 0.01ct มักจะทำ
SCแต่บางครั้งก็ทำ FC แล้วแต่ความต้องการของลูกค้า
4. Size
จะคิดเป็น Carat หรือ มิลลิเมตร
คุณภาพตาม GIA (Gemstone Institute of America) จะมีมาตรฐานการอ่านคุณภาพของเพชร เช่น HI/II หมายความว่า เพชรมีความขาวอยู่ระหว่าง H และ I โดยที่มี Clarity อยู่ระดับ I1 คุณภาพสีที่ดีจะอยู่ระหว่าง G – H ในบางครั้งอาจจะบอกเพียง Color หรือ Clarity เท่านั้น เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าระดับดีก็ควรมี Clarity ดีเช่นกันคือถ้าระดับ G-H ก็ไม่ควรที่จะมี Clarity ต่ำ
เนื่องจากคุณภาพ GIA จะมีช่วง Range ของมันอยู่ การติดต่อระหว่างองค์กรอาจจะบอกละเอียดมากขึ้นเป็น W1, W2, W3 เป็นการติดต่อให้เข้าใจระหว่างองค์กรจะไม่เป็นทางการ
3. Labor ปัจจัยที่ใช้ในการกำนดต้นทุน คือ
• Quality
• ค่าฝัง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละชิ้นงานและประเภทของพลอย
• CFP คือ Casting (หล่อ), Filing (การตกแต่ง), Polishing (การขัด)
• Rhodium เ็ทน้ำยาใช้เคลือบสีขาว ประโยชน์ คือ ชุบเพชรสีขาวให้มีความแวววาวมากขึ้น ชุบเพชรสีดำเพื่อเป็นการลด Metallic ลดความรู้สึกเป็นโลหะลง ทำให้เพชรมีความกลมกลืนกับชิ้นงาน
• Texture คือการทำลวดลายให้กับชิ้นงานเพื่อให้เกิดความรู้สึกและอารมณ์แตกต่างกัน
Accessory
คือ ส่วนประกอบอื่นๆ ที่มากับเครื่องประดับ เช่น สร้อย เป็นต้น ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย